วันนี้เทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) มีบทบาทสำคัญในสาขาอุตสาหกรรมสิ่งทอ หน่วยผลิตใดมีพนักงานที่สี่ Ms, ชาย, วัสดุ, เครื่องและของเงินแน่นอน เพื่อให้ได้ความสำเร็จขององค์กร, ผู้บริหารต้องให้ความสำคัญกับปัจจัยทั้งหมดเหล่านี้ให้ตรงกันและการพัฒนาความร่วมมือกันกับการดำเนินงานทั้งในและนอกองค์กร ด้วยการแข่งขันที่เพิ่มขึ้น บริษัท มีการสนับสนุนด้านไอทีเพื่อยกระดับของการจัดการซัพพลายเชน (SCM) และใช้เป็นเปรียบในการแข่งขัน ในสั้น ๆ , บริษัท สิ่งทอจำนวนมากใช้ประโยชน์จากพลังทางเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจของพวกเขา
การจัดการซัพพลายเชนรวมถึง : การจัดหา, การจัดหา, การแปลง, และทุกกิจกรรมโลจิสติก มันพยายามที่จะเพิ่มความเร็วในการทำธุรกรรมโดยการแลกเปลี่ยนข้อมูลในเวลาจริงลดสินค้าคงคลังและปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นโดยการตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิภาพ
อุตสาหกรรมสิ่งทอจึงต้องการ IT Support?
การขาดข้อมูลเกี่ยวกับอุปสงค์และอุปทานแง่มุม
ส่วนใหญ่ของการตัดสินใจจัดการจะมีความสัมพันธ์กับอุปสงค์และอุปทานในประเด็น แต่น่าเสียดายที่น้อยมากสามารถที่จะได้รับมันก็เป็นผลมาประกอบการตัดสินใจความเสี่ยงและความไม่แน่นอน สินค้าคงคลังส่วนเกินเป็นหนึ่งในปัญหาที่พบบ่อยที่สุดต้องเผชิญกับผู้จัดการซึ่งเป็นผลต่อไปในระยะเวลานานวงจร, สต็อกเก่าขายไม่ดีอัตราที่ต่ำและการลดลงของการแสดงผลคำสั่งและในที่สุดก็นำไปสู่ความไม่พึงพอใจของลูกค้า
ระยะเวลาจัดซื้อจัดจ้าง
ในอุตสาหกรรมสิ่งทอแบบดั้งเดิมกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างใช้เวลานาน ดังนั้นผู้ค้าปลีกจำเป็นต้องพยากรณ์ความต้องการและระบุแนวโน้มการบริโภคในขั้นตอนก่อนหน้านี้มาก ขาดความชัดเจนเกี่ยวกับอนาคตอย่างใดอย่างหนึ่งอาจส่งผลให้หุ้นออกมา แต่เช้าล่าช้าหรือ overstock
ห่วงโซ่อุปทานในความสามารถ
ด้วยการเดินกระตุ้นสำหรับให้ทั่วโลกได้รับเครื่องแต่งกายและสิ่งทอกำลังประสบอุปสรรคของการขาดประสิทธิภาพในการดำเนินต่างๆออกขั้นตอนที่เกี่ยวข้องได้จากการออกแบบพัฒนาตัวอย่างได้รับการอนุมัติการผลิตไปยังขั้นตอนการชำระเงิน รวมเวลาถ่ายจะได้รับการขยายไปหนึ่งปีหรือแม้แต่อีกต่อไป ถ้าเราจะคำนวณการผลิตจริงบัญชีสำหรับสิบเพียงร้อยละยี่สิบของเวลาทั้งหมด เหลือเวลาที่ถูกใช้ไปสำหรับการประมวลผลข้อมูลจากปลายด้านหนึ่งไปยังอีก
เส้นทางการเคลื่อนที่ของการพัฒนาของเทคโนโลยีสารสนเทศมี intersected การประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมสิ่งทอทุก จากการเพิ่มประสิทธิภาพของการผลิตสิ่งทอและการควบคุมกระบวนการที่เข้มงวดมากขึ้น แต่ก็มีปัญญาที่แทรกโหนดของห่วงโซ่อุปทานทุกสิ่งทอ
ก้าวเข้าสู่การค้าโลก
มันเป็นความจริงที่ บริษัท ทั่วโลกจะมีการเปิดโอกาสที่มีจำนวนมากเช่นเดียวกับภัยคุกคามในแง่ของการแข่งขันการเปลี่ยนแนวโน้มและการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมอื่น ๆ มันมีความจำเป็นของการจัดการข้อมูลทุกชนิดได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วยิ่งขึ้นด้วยความเร็ว
ปฏิสัมพันธ์ของเทคโนโลยีสารสนเทศกับสิ่งทอ Supply Chain
การแลกเปลี่ยนข้อมูล
การไหลที่เหมาะสมของข้อมูลระหว่างสมาชิกในห่วงโซ่อุปทานคือสำคัญมาก การไหลของข้อมูลดังกล่าวจะมีผลต่อประสิทธิภาพการดำเนินงานโดยรวมของห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งจะรวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับลูกค้าและความต้องการของพวกเขาสถานะสินค้าคงคลังการวางแผนการผลิตและการส่งเสริมการขาย, การนัดหมายจัดส่งรายละเอียดการชำระเงินและอื่น ๆ รหัสบาร์และแลกเปลี่ยนข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์เป็นสองเครื่องมือเทคโนโลยีสารสนเทศที่สามารถอำนวยความสะดวกในการรวมข้อมูล
รหัสบาร์อำนวยความสะดวกในการบันทึกข้อมูลรายละเอียดโดยการแปลงไปยังรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์และสามารถใช้ร่วมกันได้อย่างง่ายดายในสมาชิกผ่านระบบอีดีไอ EDI ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสามารถที่จะเปลี่ยนวิธีการแบบดั้งเดิมของการส่งผ่าน mail เหมือนโทรศัพท์และโทรสารได้ EDI ช่วยให้ผู้บริหารในการวิเคราะห์และใช้ในการตัดสินใจทางธุรกิจของพวกเขา นอกจากนี้ยังช่วยในการเร่งรอบการสั่งซื้อสินค้าที่ช่วยลดการลงทุนในสินค้าคงคลัง EDI ช่วยให้เครือข่ายจาก บริษัท ในการรักษาตอบสนองอย่างรวดเร็วและความสัมพันธ์กับการปิดกับซัพพลายเออร์และลูกค้าที่กระจายอยู่ตามภูมิภาค ผู้ผลิตและผู้ค้าปลีกสามารถใช้ใหม่ได้การออกแบบการพัฒนาผ่าน CAD / CAM
การวางแผนและการดำเนินงานรองรับการทำงาน
การวางแผนและการประสานงานเป็นเรื่องที่สำคัญมากในการจัดการห่วงโซ่อุปทาน ขั้นตอนต่อไปหลังจากที่ใช้ข้อมูลร่วมกันคือการวางแผนซึ่งรวมถึงการออกแบบและการใช้งานร่วมกันสำหรับการแนะนำผลิตภัณฑ์และการพยากรณ์ความต้องการการเติมเต็ม สมาชิกซัพพลายเชนตัดสินใจบทบาทและความรับผิดชอบของพวกเขาที่มีการประสานงานผ่านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ
เครื่องมือซอฟแวร์ต่างๆเช่น MRP, MRP - II, APSS อำนวยความสะดวกการวางแผนและการประสานงานระหว่างส่วนงานที่แตกต่างกันภายในองค์กร
ความต้องการวัสดุ Planning (MRP) : ช่วยในการจัดการกระบวนการผลิตขึ้นอยู่กับการวางแผนการผลิตและระบบการควบคุมสินค้าคงคลัง การดำเนินงานที่เหมาะสมของ MRP ช่วยให้มั่นใจว่ามีข้อมูลในการผลิตและสินค้าเพื่อการบริโภคในเวลาที่เหมาะสมปรับระดับของสินค้าคงคลังและช่วยในการจัดตารางกิจกรรมต่างๆ ระบบฐานข้อมูล MRP ใช้คอมพิวเตอร์ในการจัดเก็บและนำไปสู่การสั่งซื้อครั้งปริมาณ MRP รวมถึงส่วนใหญ่เป็นสามขั้นตอนแรกของการประเมินความต้องการของจำนวนหน่วยของส่วนประกอบที่จำเป็นต้องใช้ในการผลิตผลิตภัณฑ์สุดท้าย; นี่มันใช้ตรรกะที่จะใช้ระเบิด (BOM) Bill ของวัสดุ ขั้นตอนที่สองรวมถึงการหักหุ้นในมือจากขั้นต้นเพื่อค้นหาความต้องการสุทธิ สุดท้ายเช่นการจัดตารางกิจกรรมการผลิตสินค้าสำเร็จรูปที่มีอยู่เมื่อต้องสมมติว่าเวลานำ
Manufacturing Resource Planning (MRPII) ระบบเป็นตรรกะส่วนขยายของระบบ MRP ซึ่งครอบคลุมฟังก์ชั่นการผลิตทั้งหมด ซึ่งปกติจะมีการโหลดเครื่องตั้งเวลา, ความคิดเห็นและซอฟแวร์โปรแกรมส่วนขยายเพิ่มเติมจากการวางแผนความต้องการวัสดุ มันมีกลไกในการประเมินความเป็นไปได้ของตารางการผลิตภายใต้ชุดที่กำหนดของข้อ จำกัด
บริษัท อุตสาหกรรมสิ่งทอที่มีการผลิตหลายจุดและมีส่วนร่วมในธุรกิจทั่วโลกที่มีความจำเป็นอะไรมากกว่า MRP และ MRP - II เช่นการกระจายความต้องการPlanning (DRP) แต่ก็มีความสามารถในการแก้ข้อ จำกัด ของกำลังการผลิตและวัสดุทั้งสองวิ่งผ่านตัวกลางได้อย่างรวดเร็วและผลกระทบของปัญหาในทิศทางที่ย้อนกลับและไปข้างหน้าตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทาน
Advance วางแผนและจัดตาราง (APSS) ระบบรวมทั้งการมุ่งเน้นวัสดุทั้งสอง MRP และการตอบสนองอย่างรวดเร็วการตั้งเวลาของไฟ MRP - II
การประสานงานของโลจิสติกกระแส
การประสานงานเวิร์กโฟลว์สามารถรวมถึงกิจกรรมต่างๆเช่นการจัดซื้อ, การทำงานสั่งการดำเนินการเปลี่ยนแปลงการออกแบบการเพิ่มประสิทธิภาพและการแลกเปลี่ยนทางการเงินซึ่งส่งผลให้ประสิทธิภาพค่าใช้จ่ายและเวลา ผลที่ได้คุ้มค่ารวดเร็วและการดำเนินงานในห่วงโซ่อุปทานที่เชื่อถือได้
IT มีส่วนช่วยต่อการเพิ่มมูลค่าของห่วงโซ่อุปทานสิ่งทอผ่านการบูรณาการการดำเนินงานโซ่อุปทานภายในและภายนอกองค์กรและการทำงานร่วมกันทำหน้าที่ของผู้ขายและลูกค้าขึ้นอยู่กับการคาดการณ์ที่ใช้ร่วมกัน Internet เพิ่มเข้าไปใน IT ส่วนร่วมต่อการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานผ่านการประสานงานบูรณาการและแม้ระบบอัตโนมัติของกระบวนการทางธุรกิจที่สำคัญ ระบบใหม่ของเกมห่วงโซ่อุปทานที่ปรากฏเป็นผลมาจากการเติมพลังด้วยนวัตกรรมธุรกิจอินเทอร์เน็ต
บริษัท จัดหาจำนวนมากรักษาข้อมูลความต้องการโดยลักษณะ, ขนาด, ผ้าและสีที่จะเติมเต็มสินค้าคงคลังในร้านค้าปลีก ระดับการ replenishing สามารถกำหนดไว้ล่วงหน้าโดยทั้งสองฝ่ายหลังจากที่ตรวจสอบประวัติของยอดขายตามผลิตภัณฑ์และพฤติกรรมการตัดสินใจซื้อของชุมชน
รูปแบบธุรกิจใหม่ :
การทำเหมืองข้อมูลและคลังข้อมูล
การทำเหมืองข้อมูลขั้นตอนการวิเคราะห์ข้อมูลจากมุมมองที่แตกต่างกันและสรุปไว้ในข้อมูลที่เป็นประโยชน์ที่สามารถใช้เป็นเกณฑ์ในการตรวจสอบและควบคุมทำให้ บริษัท ให้ความสำคัญกับส่วนที่สำคัญที่สุดของธุรกิจของพวกเขาคือ จะช่วยให้ผู้ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลจากมิติที่แตกต่างกันหลายประเภทนั้นและสรุปความสัมพันธ์ที่ระบุ ในระยะสั้นมันเป็นกระบวนการของการค้นหาความสัมพันธ์หรือความสัมพันธ์ในหมู่นับสิบของเขตข้อมูลในฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ขนาดใหญ่
คลังข้อมูลเป็นพื้นที่เก็บข้อมูลของข้อมูลและสามารถกำหนดเป็นกระบวนการของการจัดการข้อมูลแบบรวมศูนย์และการดึง การรวบอำนาจของข้อมูลช่วยเพิ่มการเข้าถึงของผู้ใช้และการวิเคราะห์
E - commerce
E - commerce สามารถ B2B (Business to Business) และ B2C (Business to Customer) B2C คือการค้าขายตรงถึงผู้บริโภคผ่านทางอินเทอร์เน็ต ในขณะที่ตลาด B2B สามารถกำหนดเป็นตัวกลาง Internet - based เป็นกลางที่เน้นกระบวนการทางธุรกิจ, marketplaces อิเล็กทรอนิกส์โฮสต์และการใช้งานต่างๆการตลาดการทำกลไกในการเป็นสื่อกลางในการทำธุรกรรมระหว่างธุรกิจ B2B ดูเหมือนจะมากขึ้นกว่าที่คาดหวัง B2C
E - ค้าปลีก
ยักษ์ใหญ่สิ่งทอ - retail กำลังเพิ่ม Internet ช้อปปิ้ง component - ที่จะนำเสนอของพวกเขา จะได้รับผลกระทบการจัดจำหน่ายและคลังสินค้าโครงสร้างพื้นฐานของพวกเขา จากผลของการเข้าสู่ระบบออนไลน์, ร้านค้าปลีกมีการเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์โซ่อุปทานของพวกเขา ผลิตภัณฑ์ปริมาณสูงที่มีความต้องการที่มั่นคงมีเลี้ยงในร้านค้าในท้องถิ่นในขณะที่สินค้าในปริมาณต่ำจะถูกเลี้ยงส่วนกลางสำหรับออนไลน์การจัดซื้อ
บริษัท ต้องการเส้นทางที่ตรงสู่ผู้บริโภคอย่างใกล้ชิดโดยกลั่นกรองรสนิยมของลูกค้าแต่ละคน, การตั้งค่าลักษณะนิสัยและรูปแบบการซื้อ แทนที่จะรอให้ผู้บริโภคในการเยี่ยมชมร้านค้าของผู้ค้าปลีกเพียงแค่ส่งอีเมลด้วยข้อเสนอ Internet มีระบบอำนวยความสะดวกในการตอบสนองอย่างรวดเร็ว ด้วยการใช้เว็บเทคโนโลยีเปิดใช้งานก็เป็นไปได้ที่จะมีลูกค้าระบบเติมอัตโนมัติ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น